Japan 4-1 Thailand
เป็นไปตามคาด สำหรับศึกคัดเลือกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 20 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย นัดแรกของทีมชาติไทย ซึ่งต้องยอมรับว่า ไม่ได้ประหลาดใจกับผลการแข่งสักเท่าไหร่ แต่ผู้เขียนกลับมองว่าเล่นได้ดีพอใช้เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี ก็ยังมีเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ทางลบจากแฟนบอลไทยหนาหูอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่แปลกใจ ทีมชาติไทยของเราเอง ย่อมต้องมีผู้ให้ความสนใจมากเป็นธรรมดา สร้างสรรค์บ้าง ไม่สร้างสรรค์บ้าง ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจในนัดต่อไป ขอเพียงอย่าท้อซะก่อน
แม้จะไม่ได้แต้มกลับบ้าน แต่ผู้เขียนกลับมองว่า ทีมชาติไทยได้อะไรจากฟุตบอลนัดนี้ได้เยอะ ก่อนจะหมดศรัทธากับฟุตบอลทีมชาติไทยของเราไปซะก่อน อยากให้ช่วยมองลึกๆ และดูดีๆ ว่าแท้จริงแล้วทีมไทยเล่นได้เต็มที่ สุดความสามารถ ซึ่งผู้เขียนคิดว่าเป็นฟอร์มที่ดี แม้จะไม่ดีที่สุดก็ตาม
มีหลายเหตุผล ที่เราไม่ควรหันหลังให้กับทีมชาติไทยชุดนี้ และยิ่งผู้เขียนได้ดูนัดนี้แล้ว ยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นในใจมากยิ่งขึ้น
ทีมไทยมาญี่ปุ่น ในสภาพที่พิการ กองหลังตัวหลักเจ็บเพียบ กองกลางเจนสนาม และ ตัวสำคัญ ก็ไม่สามารถลงได้ แต่อย่างไรก็ดี ถ้ามองในแง่ของแทคติก สำหรับเกมนี้ ผู้เขียนมองว่า ทีมชาติไทย เล่นได้ตามแทคติกที่วางไว้จริงๆ ฟังไม่ผิดหรอกครับ ผู้เขียนคิดแบบนั้นจริงๆ
ก่อนลงสนาม มีข่าวว่า สนามที่จะใช้แข่งได้ถูกตัดให้เหี้ยนเกรียน เพื่อที่จะเอื้อประโยชน์ในการเล่นบอลเร็ว แบบที่ญี่ปุ่นถนัด ซึ่งต้องบอกว่า ไม่ได้สร้างความลำบากให้ไทยเท่าไร เพราะแทคติกของไทยในเกมนี้ ได้ถูกนำมาสกัดข้อได้เปรียบ ในจุดนั้นได้อย่างดี
แทบทั้งเกม จะเห็นได้ว่า แดนกลางของไทย พยายามอยู่ตรงกลางสนาม คุมโซนปลอดภัย ไม่ไล่บอลเมื่อบอลยังไม่เคลื่อนมาถึงโซน เและยืนให้พื้นที่ตรงกลางสนามแคบที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้ญี่ปุ่น จ่ายทะลุช่องหรือทำเกมส์ตรงกลางได้ถนัด และผลลัพธ์ที่เราเห็นก็คือ ญี่ปุ่นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะยิงไกลแทน อีกทั้งยังถูกบีบเพื่อให้เล่นเกมทางริมเส้นมากขึ้น โดยโยนเข้ามาซะมากกว่าทำเกมตรงกลาง ซึ่งต้องถือว่าเราปิดผนึกเกมบุกตรงนั้นเค้าได้ ซึ่งถือว่าสมบูรณ์แบบ แต่ก็มีสิ่งที่ผิดพลาดอยู่บ้างเหมือนกัน
สิ่งที่เราพลาดไป นั่นก็คือเรื่องการเคลื่อนที่ของทีม ที่อาจจะเน้นปลอดภัยเกินไป และ ความนิ่งในจังหวะสำคัญ จะเห็นได้เลยว่า พอไทยจะทำเกมบุก นอกจากกองหน้าจะเก็บบอลได้น้อยครั้ง แต่กองกลาง ก็ไม่อาจเติม หรือช่วยกองหน้าเพื่อฝากบอลให้ได้เหมือนกัน ซึ่งส่วนนึง อาจเพราะว่ากองกลางที่ช่วยเกมรับ วิ่งเติมไม่ทัน หรือพยายามเล่นปลอดภัยก็แล้วแต่ อาจกลัวพลาด เมื่อทำเกมรุกเสียอาจโดนสวนกลับ ซึ่งจุดนี้อาจทำได้ ทีมไทยไม่กล้าเติมเกม มากนัก หรือเติมแล้วถูกแย่งบอลกลับจากการครอบครองอย่างรวดเร็ว
แต่ในแง่แทคติก นั่นคือสมบูรณ์แบบ เพราะเมื่อคุณมาต่อกรกับญี่ปุ่นในขณะที่สกอร์เสมอกันอยู่ สิ่งที่คุณทำได้ ก็คือเล่นเกมรับอย่างมีวินัย ซึ่งถือว่าไทยสอบผ่านเลย และจังหวะการส่ง หรือ ผ่านบอล ของไทยในนัดนั้น ถือว่าดีและเหมาะกับลักษณะของทีมที่เป็นรอง และตั้งรับ นั่นคือช้าและรัดกุม เอาแน่นอนไว้ก่อน แต่ที่ขาดไปคือ ตัวเก็บบอล และ คนที่ตัวเก็บบอลจะส่งให้ต่อนั่นเอง ทำให้เกมออกมาดูอึดอัด เมื่อทำเกมรุก จึงกลายเป็นปัญหา
ทีมชาติไทย แพ้จริงๆ ก็ตอนโดนนำ 2-1 ในความคิดของผู้เขียน เพราะตั้งความคิดกับนัดนี้เพียง 1 แต้ม ซึ่งเมื่อรักษาสกอร์ให้คงเดิมไว้ไม่ได้ (1-1) ผู้เขียนจึงไม่คิดว่าจะมีลูกยิงตีเสมอเป็น 2-2 อีก แล้วก็เป็นไปตามคาด คือไทยเเสียกระบวน ยิ่งผู้เล่นถูกโดนไล่ออก ยิ่งเสียเปรียบ แต่สกอร์ 4-1 สำหรับผู้เขียน ถือว่าไม่แย่ ผู้เขียนปิดทีวีหลังชมเกมนี้จบ อย่างไม่ทุกข์ร้อนมากนัก โดยคิดว่า ทีมชาติไทยมาถูกทางแล้ว
เพราะว่าในแง่แทคติกที่ใช้ เราค่อนข้างเอาเขาอยู่หมัด แต่สิ่งที่พลาดคือ การรับมือกับลูกเซ็ตพีซ และ ความนิ่งในจังหวะสำคัญ เมื่อสามารถปิดผนึกเกมบุก บีบบังคับให้เขาต้องมาเล่นเกมตามที่เราต้องการแล้ว แต่เราเสียตรงที่ พอเขาเล่นในเกมที่เราวางหลุมพรางแล้ว แต่เราไม่สามารถป้องกันได้ สังเกตดูดีๆ ทุกลูก ทุกประตูที่ญี่ปุ่นได้ ไม่มีมาจากการโอเพ่น เพลย์ แม้แต่ลูกเดียว มันเป็น 3 ลูก จากเซ็ตพีซ และที่พลาดกันเองอีก 1
มันก็เป็นอีกวันที่ทีมไทยเล่นได้ตามแผน แต่มีข้อบกพร่องนิดหน่อย ที่ทำให้พ่ายแพ้นั่นแหละ ฟุตบอลจะพัฒนามันก็ต้องใช้เวลา ดูนัดนี้ ผู้เขียนเห็นพัฒนาการได้อย่างชัดเจน ทีมชุดนี้มีอนาคตแน่ ขอให้ทุกคนเอาใจช่วยกันต่อไป
ไทยแลนด์ ปู๊นๆๆ
Putt_Hub^^
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC